วันที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา น. นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.แพร่ นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ รอง ผวจ.พ.อ.ธำรงศักดิ์ บุญทักษ์ รอง ผอ.รมน.( ท.) นายสมชาย อำพันกาญจน์ ปลัดจังหวัดแพร่ นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ พ.ต.อ.ณรินทร์ วรรณมณี ผกก.สภ.เมืองแพร่ ได้มอบหมายให้ นายองตรี วีระพงศ์ กันทะลือ ป้องกันจังหวัดแพร่ พร้อม ผบ.ร้อย.บก.บร.อส.จว.แพร่ และชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ ชุดปฎิบัติการพิเศษ อำเภอเมืองแพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำจังหวัดแพร่ ได้บูรณาการเข้าตรวจค้นและจับกุม ร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จากสายสืบได้ข้อมูลของการดำเนินการการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 2 ร้าน ใน บริเวณกาดน้ำทอง ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ร้านแรกเข้าตรวจค้นพบ อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า ประกอบด้วยอะไหล่หัวเปลี่ยน จำนวน 2,572 ชิ้น ตัวเครื่องแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 586 ชิ้น และน้ำยาเติมสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า 385 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 539,000 บาท ร้านที่ 2 ตรงกันข้ามกับทางเข้าห้างมาร์คโฟร์ พลาซ่า ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ สามารถยึดอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าหัวเปลี่ยน จำนวน 1,601 ชิ้น ตัวเครื่องใช้แล้วทิ้ง 542 ชิ้น น้ำยาเติม จำนวน 213 ชิ้น และอุปกรณ์เสริม อีกกว่า 22 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 392,400 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง 2 ร้าน คิดเป็นมูลค่ารวม 931,700 บาท จึงได้จับกุมเจ้าของร้านดังกล่าว และแจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป บุหรี่ไฟฟ้า ถือว่าเป็นภัยเงียบของ เด็กเยาวชน,วัยรุ่น และวัยที่สูบบุหรี่มาก่อน กลับมาเปลี่ยนตามสมัยนิยมของสไตล์แบบเท่ห์ๆ แต่ที่น่าตกใจและกังวนของภาครัฐ พบว่าเด็กๆติดบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุ 7 ปี ตามที่เป็นข่าว และจะมีการเพิ่มการสูบบุหรี่แบบเดิมและแบบไฟฟ้า เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ที่ทะลักเข้ามาในประเทศ แหล่งผลิตมาจากประเทศจีนเป็นหลัก ได้แปรรูปของรูปแบบการบรรจุบุหรี่ไฟฟ้าในลักษณะแบบของเล่นพร้อมตบแต่งกลิ่นและสีสรร เพื่อดึงดูดเด็กและเยาวชน พร้อมสามารถตบตาผู้ปกครองได้ เพราะมีลักษณะเหมือนของเล่นเด็ก อีกประการหนึ่งอยู่ที่จิตสำนึกของผู้นำเข้าและร้านค้าต่างๆ ไม่มีจิตสำนึกกับการแพร่ระบาดของภัยร้ายที่จะมาบั่นทอนสุขภาพร่างกายของผู้เสพและผู้ใกล้ชิดผู้สูบบุหรี่ ฉะนั้นเราทุกคนรู้, พบ, เห็น สิ่งที่เป็นภัยต่อสังคมสามารถที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องได้ หน่วยงานภาครัฐก็เช่นกัน จะต้องตอบสนองกับการร้องเรียนหรือชี้เบาะแส จึงจะทำสังคมสงบสุข ปราศจากภัยใกล้ภัยตัวเราและลูกหลานของพวกเรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *