จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชาชนเกี่ยวกับการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งจะทำให้เกิดการเพิกถอนพื้นที่ จำนวนกว่า 265,286.58 ไร่ ออกจากการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จนทำให้เกิดกระแสคัดค้านเป็นวงกว้างนั้น นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย นักวิชาการด้านกฎหมาย และอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คว่า

“กรณีอุทยานแห่งชาติทับลานที่กำลังเป็นกระแสนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่อุทยานนั้น มีความหลากหลาย ทั้งชาวบ้านที่อาศัยทำกินในพื้นที่มาแต่เดิมก่อนถูกประกาศเป็นเขตอุทยาน ชาวบ้านที่ทำกินโดยอาศัยสิทธิตาม ส.ป.ก. หรือสิทธิอื่นที่รัฐกำหนดให้ เช่น สิทธิตามโครงการจัดสรรที่ดินทำกินแก่ราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม (คจก.) ซึ่งได้มาโดยสุจริต และรวมถึงชาวบ้านที่เข้ามาอยู่ภายหลัง และสุดท้ายคือกลุ่มนายทุนที่เข้ามาบุกรุก ครอบครองพื้นที่สร้างรีสอร์ทหรือบ้านพักตากอากาศ ไม่ว่าจะเข้ามาโดยโจ่งแจ้งหรือใช้ชาวบ้านเป็นนอมินีก็ตาม

ดังนั้น รัฐจึงต้องดำเนินการแยกปลาออกจากน้ำ แยกเสือออกจากป่าเสียก่อน กล่าวคือ ต้องแบ่งกลุ่มให้ชัด ว่าใครเป็นชาวบ้านที่อยู่มาก่อน หรืออยู่โดยอาศัยสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายและได้มาโดยสุจริต ใครเป็นนายทุนรุกป่า และเมื่อทราบแล้วว่าใครเป็นนายทุนหรือผู้ที่รุกป่า รวมทั้งข้าราชการและนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และห้ามเพิกถอนความเป็นอุทยานตรงบริเวณที่ถูกนายทุนรุกล้ำ เพราะจะกลายเป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ส่วนชาวบ้านที่อยู่มาก่อนการประกาศเขตอุทยานก็ต้องคืนสิทธิให้เขาทำมาหากิน

นอกจากนี้อาจพิจารณากำหนดโซนนิ่งของอุทยาน กันส่วนหนึ่งของอุทยานไว้เป็นพื้นที่หวงห้ามโดยเฉพาะ ห้ามนักท่องเที่ยวเข้า อนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่และนักวิจัยเท่านั้น เพื่อให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์อย่างแท้จริง และกำหนดเขตที่อนุญาตให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้ แต่ต้องไม่กระทบระบบนิเวศน์ของป่าและไม่ส่งผลเสียต่อพื้นที่อุทยาน เป็นต้น

สุดท้ายนี้ผมขอฝากว่ารัฐต้องไม่แก้ปัญหาแบบเหมาเข่ง บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดและเป็นธรรม และรักษาผืนป่าและสัตว์ป่าไว้ให้เป็นมรดของลูกหลานต่อไปครับ ด้วยความปรารถนาดี”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *