วันที่ 21 ธันวาคม 2567 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 การเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัด ทั่วประเทศ ก็ครบวาระตามกฎหมายการดำรงตำแหน่งผู้บริหารและฝ่ายสภา ท้องถิ่น ครบวาระ 4 ปี แต่บางจังหวัด นายก อบจ.ก็ชิงลาออกแล้วกลับไปสมัครลงเลือกตั้งต่อ ด้วยเหตุและผลคือเอาเปรียบคู่แข่งลงรับสมัครการเลือกตั้ง แต่มีประชาชนเจ้าของประเทศผู้ที่เสียภาษี ย้อนถาม นายก อบจ.ที่ลาออกแล้วกลับมาสมัครการเลือกตั้งต่อ เป็นเพราะเหตุอะไร? นี่คือคำถามแต่หาคำตอบไม้ได้จากอดีต นายก อบจ.ที่ชิงลาออก แล้วลงรับสมัครใหม่ บางคนก็ประสบผลสำเร็จ บางคนก็แพ้ นั้นคือประเด็นกฎหมายการเลือกตั้งของประเทศไทย ที่สำคัญถ้า อดีตนายก อบจ.เหล่านั้นไม่ลาออการใช้งบประมาณการเลือกตั้งแต่ละครั้งเป็นงบประมาณเท่าไหร่? ทาง กกต.เคยชี้แจงให้กับประชาชนผู้เสียภาษีทราบมัย ว่ามันเสียงบประมาณแต่ละครั้งการเลือกตั้งเท่าไหร่? และขนานไหน พอหมดวาระ สมาชิกองค์การบริหารจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศจะต้องมีการเลือกตั้งตามกฎหมายการเลือกตั้งกำหนด เท่ากับว่าบางจังหวัดที่อดีตนายก อบจ.ลาออกแล้วเลือกตั้งใหม่จะต้องนำงบประมาณมาใช้ถึง 2 ครั้ง นั้นคือประเด็นกับการนำงบประมาณมาใช้ซ้ำซ้อน ข้อกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบันจะต้องแก้ไข หรือไม่?คาดโทษผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้วจะต้องให้อยู่ครบวาระ คือ 4 ปี ยกเว้นเสียชีวิตหรืออื่นใดที่ไม่อาจบริหารจัดการตามหน้าที่ได้ แต่ถ้าลาออกแล้วกลับมารับสมัครเลือกตั้งใหม่ นั้นเสมือนนำงบประมาณภาษีชาวบ้านมาใช้โดยไม่จำเป็น มันจำเป็นเฉพาะส่วนบุคคลนั้นๆ เท็จจริงอย่างไร ชาวบ้านวิเคราะห์กันเอง ในมุนมองของสื่อที่ฟังเสียงจากชาวบ้านผู้เสียภาษี มาเล่าสู่กันฟัง เป็นข้อคิดผู้ร่างกฎหมายกฎระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือระดับประเทศ ให้ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากเจ้าของประเทศคือ ประชาชน
