ปชป.รวมพล คนภาคเหนือ 9 จังหวัด
วันที่ 27 มกราคม 2568 พรรคประชาธิปัตย์ โดยการนำของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ปชป. ได้วางแผนปรับแผนยุทธศาสตร์ การลงพื้นที่และพบปะประชาชนพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล พรรค ปชป.ที่ได้ร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพธารทอง ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พรรค ปชป.ซึ้งดูแล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นห่วงใยประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะเรื่อง ที่ทำกินที่ดินซับซ่อนในเขตป่าและที่ดินในเขตอุทยาน ที่มีปัญหามานานแสนนาน เพื่อเป็นผลประโยชน์ให้กับประชาชน ที่ดินคือชีวิตของประชาชน ทางรัฐมนตรีว่าการ ทส.พร้อมที่ผลักดันในเป็นรูปธรรม ทั่วประเทศในเวลาอันใกล้นี้ ส่วนปัญหาที่เกิดซ้ำซากทุกปีคือปัญหา ฝุ่นละออง P.M.2.5 เป็นหน้าที่ของ กระทรวง ทส.และ สธ.จะต้องเดินไปด้วยกัน เมื่อ วันที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น.ณ ห้องประชุม เขื่อนสิริกิติ์ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป.รมว.การ ทส.มอบหมายให้ นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ( สส.เต้)ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.ภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ภาคเหนือ ใน 9 จังหวัด ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.อุตรดิตถ์ จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.น่าน จ.พะเยา จ.เชียงราย จ.สุโขทัย ได้มีตัวแทน อดีตผู้สมัคร สส.และ สมาชิกพรรค ปชป.มาร่วมฟังนโยบายเพื่อรับฟังปัญหาในแต่ละพื้นที่ของแต่ละจังหวัด นำไปเสนอต่อ หัวหน้าพรรค ปชป. รมว.การ ทส. และ รมว.ช่วย สธ.นำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาและหาแนวทาง ในการช่วยเหลือประชาชนแบบเร่งด่วนในปัจจุบันและอนาคต ทางด้าน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ( สส.เต้) ได้นำความคิดเห็นของแต่ละพื้นที่ และมีข้อคิดในการลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัดที่ทางหัวหน้าพรรค ปชป.มอบหมายจะต้องลงมาพบปะชาวบ้านที่มีความต้องการดำรงชีพ ความเป็นอยู่และด้านสุขภาพอนามัย และจะต้องเดินสายให้มีกรอบเวลาของการรับฟังและนำไปปฎิบัติเป็นรูปธรรม จะไม่ยกเมฆ จะไม่เขียนในกระดาษ เหมือนกับอดีตที่ผ่านมา
พรรคประชาธิปัตย์ ในยุคที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตามยุคตามสมัย แต่แฝงด้วยอุดมการณ์ กับผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ปชป.มาตั้งแต่ ปี 2489 นั้นคือ สัจจะ เว อมตา วาจา พรรค ปชป.เป็นสถาบันการเมือง ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ จึงยืนหยัดมากว่า 79 ปี ทุกท่านที่มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป.พร้อมคณะกรรมการบริหาร มีจิตมุ่งมั่นคงต้องมีอุดมการณ์ เอาประเทศชาติที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ ประชาชน เป็นหลักการในเวลาเดียวกันได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อดีตผู้สมัคร สส.และสมาชิกพรรค ปชป.ในครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความชัดเจนกับการเดินทางนโยบายพรรค ปชป.ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2570 พรรคประชาธิปัตย์ ยึดมั่น ในอุดมการณ์เสมอ
