วันที่ 24 กรกฎาคม2568 เวลา 09.00 น.สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม จ.แพร่ หลังจากที่พายุโซนร้อน วิภา ได้แผ่กระจายเข้าสู่ประเทศไทย ตั้งแต่ภาคอีสาน จนถึงภาคเหนือตอนบน ตั้งแต่วันที่ 21-23 กรกฎาคม 2568 จ.แพร่ ได้รับผลกระทบใน อ.สอง อ.หนอวงไข่ ในช่วงวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เจ้าพายุ วิภา ถล่มใน จ.น่าน หลายอำเภอ เช่น อ.เมืองน่าน อ.ปัว อ.เวียงสา อ.ภูเพียง ได้รับความเสียหายตามรายงานข่าว และ จ.พะเยา อ.ปง อ.เชียงม่วน และ อ.เมืองพะเยา จากสภาวะน้ำใน อ.ปง จ.พะเยา ที่ไหลลงสู่แม่น้ำยมจะทำให้มวลน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำยม แม่น้ำยมถือว่าเป็นเส้นเลือดสายน้ำใหญ่ที่ไหลเข้าสู่จังหวัดแพร่ และไหลผ่าน อ.สอง อ.หนองม่วงไข่ อ.เมืองแพร่ อ.สูงเม่น อ.เด่นชัย อ.ลอง และ อ.วังชิ้น ก่อนที่สายน้ำยมจะไหลลงไปสู่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ต่อไป ในเวลา เช้ามืดของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 แม่น้ำยม ที่มีประตูเปิด-ปิด (ฝาย) ในพื้นที่ ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ โดยมีสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยมได้มีการควบคุมมวลน้ำที่จะปล่อยลงสู่ประตูฝั่งซ้าย-ขวา ลงในลำเหมืองส่งน้ำ ( คลองชลประทาน) และระบายลงสู่แม่น้ำยมประมาณ 1,300-1,400 คิว / วินาที จากสถานการณ์น้ำในวันนี้ทางจังหวัดแพร่ประกาศแจ้งเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำยมหรือสถานที่ถูกน้ำท่วมทุกปีให้ยกข้าวของขึ้นที่สูง ย้ายผู้ป่วยติดเตียง และยานพาหนะที่มีความเสี่ยงไปเก็บรักษาไว้ในที่สูง ทางสำนักงาน ปภ.แพร่ ได้มีการแจ้งเตือนจาก SMS. เป็นระยะๆ ในส่วน พื้นที่ ต.หัวเมือง อ.สอง จ.แพร่ ในเวลา 05.30 น. ทาง จ.แพร่ ได้รับรายงานจาก นายลำพล พุ่มพวง นายก อบต.หัวเมือง อ.สอง จ.แพร่ ว่าสะพานข้ามคลองชลประทาน หมู่ที่ 1 สะพานทรุดตัว (ขาด) ไม่สามารถที่จะใช้งานได้ ทางด้าน นายศุภชัย บุญทิพย์ นายอำเภอสอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและรายงานให้ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้รับทราบเบื้องต้น สาเหตุตามภาพที่สะพานทรุดตัว (ขาด) เพราะมีเศษสิ่งกิ่งไม้ มวลวัชพืชที่ไหลมากับมวลน้ำกระทบกับเตาหม้อสะพาน จึงเป็นสาเหตุของสะพานทรุดตัว ( ขาด ) นายอำเภอ สอง จึงได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาเร่งด่วนเพื่อที่จะได้ให้ชาวบ้านสัญจรข้ามสะพานได้ตามปรกติ สรุปมวลน้ำในแม่น้ำยม ยังทรงตัวและจะต้องรอมวลน้ำที่ไหลมาจาก จังหวัดพะเยาไม่เกิน 6 โมงเย็นของวันนี้ ( 24 ก.ค.68) ณ ตอนนี้ พายุ นาววิภา ได้เคลื่อนตัวไปยังจังหวัดเชียงราย และ ผ่านสู่ประเทศเมียนม่า ต่อไป




