วันที่ 13 สิงหาคม 2568 เมื่อ วันที่ 7 สิงหาคม 2568 กรณีที่มี สมาชิกวุฒิสภา.อิสระ ในกลุ่มเรียกตัวเองว่า Non-BIue ได้ร่วมลงชื่อกันไม่ต่ำกว่า 1 ใน10 ของจำนวนสมาชิก วุฒิสภา.ทั้งหมดที่มีอยู่ของสมาชิกวุฒิสภา คือ 20 คน ยืนคำร้องต่อ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาและวินิจฉัย สมาชิกวุฒิสภา 136 คน ให้สิ้นสมาชิกสภาภาพพร้อมให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราว เนื่องจากอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง จากกรณีดังกล่าว นายธณัชญ์พงศ์ วงศ์มุมาลี สมาชิวุฒิสภา ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพ หลังพบว่ามีชื่อลายมือตนเองปรากฏในเอกสาร พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่ลายเซ็นของตัวเอง รายที่ 2 นายเดชา นุตาลัย สมาชิกวุฒิสภา ก็เช่นเดียวกันว่าไม่ใช่ลายเซ็นของตนเองเช่นกัน ทั้ง 2 รายนำหลักฐานและลายเซ็นตัวจริงเปรียบเทียบในเอกสารดังกล่าว ที่ลงรายชื่อที่ยื่นต่อประธานวุฒิสภา ขณะเดียวกัน พ.อ.หญิง ธณตศกร บุราคม สมาชิกวุฒิสภาได้ทำหนังสือถึงประธานวุฒิสภาเพื่อขอถอดถอนรายชื่อของตัวเองออกจากคำร้องดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากเข้าใจคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญของการร่วมลงเสนอชื่อในครั้งนี้เช่นกัน สรุปการถอนรายชื่อ สมาชิกวุฒิสภาเพิ่มเติม 3 ท่าน ผ่านสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ลงเลขรับที่ 6506 สรุปการยื่นถอดถอนสมาชิกวุฒิสภาไม่ถึง 20 คน ตามรัฐธรรมนูญ ของการถอดถอนฯ ในข้อสังเกตการณ์ของ อจ.พิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เป็นคณะที่มีความสนิทสนมและใกล้ชิดกับหนึ่งใน สมาชิกวุฒิสภา.ที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการปลอมลายเซ็น ก็ขอแสดงความรู้สึกตำหนิการกระทำของกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา ดังกล่าว ว่าการปลอมลายเซ็นของ สมาชิกวุฒิสภา เพื่อใช้ในกระบวนการถอดถอน ฯ เป็นการกระทำที่ไม่เพียงแต่ยังละเมิดต่อกฎหมายอาญา มาตรา 267และ มาตรา 271 เท่านั้น แต่เป็นการล่วงละเมิดในความเชื่อถือของสถาบันรัฐสภา และบั่นทอนความเชื่อถือของประชาชนต่อระบบประชาธิปไตยของประเทศไทย จึงขอร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาและเข้มงวด เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามกฎหมายและเพื่อปกป้องสิทธิภาพของสมาชิกวุฒิสภา ที่ถูกละเมิดอย่างไม่เป็นธรรม การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และจะไม่สามารถทำลายความมุ่งมั่นของสมาชิกวุฒิสภา ในการปฎิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไปได้ ในความเห็นส่วนตัวขอสนับสนุนยืนเคียงข้าง สมาชิกวุฒิสภาผู้เสียหายในการเรียกร้องขอความยุติธรรมและขอความจริงในเรื่องดังกล่าวให้ถึงที่สุด ขอให้หน่วยที่เกี่ยวข้องจะต้องคำนึงถึงวุฒิภาวะของหน่วยงานที่ตรวจสอบหาความจริงมาตีแผ่ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของกลุ่มดังกล่าว
