วันที่13 กันยายน 2568 เมื่อ วันที่12 กันยายน 2568 เวลา 14.45 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ คนที่ 9.
ได้ทำหนังสือยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ปชป.ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ด้วยสาเหตุด้านสุขภาพ ให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 12 กันยายน 2568 เป็นต้นไป โดยมอบหมายให้ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รอง หัวหน้าพรรค ปชป. ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนหัวหน้าพรรค ปชป
จนกว่าจะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่ต่อไป ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต หัวหน้าพรรค ปชป.ได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกพรรค ปชป.และตัวแทนพรรค ปชป.ทั่วประเทศ
ในวันที่ 9 ธันวาคม 2566 กว่าจะมานั่งเก้าอี้ในตำแหน่งพรรค ปชป.ได้มีการเรียกประชุมสมาชิกและตัวแทนพรรค ปชป.ถึง 3 ครั้ง หลังจากที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
ได้นำพรรค การเลือกตั้งครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ครบ 400 เขต เมื่อ วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ผลปรากฏว่า ได้ สส.มา 25 ที่นั่ง สส. เขต 22 ที่นั่ง สส.บัญชีรายชื่อ 3 ที่นั่งเพราะต่ำกว่า 50 ที่นั่ง จึงลาออก
ารประชุมครั้งแรกในวันที่ 9 กรกฏาคม 2566 ผลปรากฏว่าองค์ประชุมไม่ครบ (ล่ม) ครั้งที่ 2 เมื่อ วันที่ 6 สิงหาคม2566 เริ่ม เวลา 09.30 น. ผลองค์ประชุมไม่ครบเพราะกำหนดองค์ประชุมไว้ 250 คน ผลมาเพียง 210 คน จนคณะกรรมการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป.รอยืดเวลาออกไปอีก 1 ชั่วโมง จนเวลา 10.45 น.องค์ประชุมก็ไม่ครบจนยกเลิกการประชุมเลือกตั้ง หัวหน้าพรรค ปชป.จนคณะกรรมการมีการแก้ไของค์ประชุมให้สอดคล้องกับผลการเลือกตั้ง หัวหน้าพรรค ปชป.จึงมีหนังสือถึงสมาชิกและตัวแทนพรรค ปชป.ตามกฎระเบียบพรรค ปชป.กำหนด จนองค์ประชุมครบ 250 คน
จึงได้เลือกตั้งแบบเข้าคูหากาเบอร์ผู้สมัครตามระบบประชาธิปไตย มี คณะกรรมการการเลือกตั้งกลางมาสังเกตการณ์ ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป. มีผู้สมัครตัวเต็ง 2 คน คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน
จนมีการขอคุยนอกรอบเพียง 2 คน คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชิวะ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ใช้เวลาการพูดคุยนอกรอบทั้งคู่ประมาณ 20 นาที จนวินาทีสุดท้าย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชิวะ ออกมาขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป.เหลือเพียงผู้สมัคร 1 คน คือ นาย เฉลิมชัย ศรีอ่อน ( ในครั้งนั้นการประชุมห้ามสื่อมวลชนทุกแขวงเข้าห้องประชุม) จนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป. คนที่ 9 คือ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ปชป. (กก.บห.) และรองภาค ทั่วประเทศ หลังจากที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้รับการเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ปชป.จึงนำพา พรรค ปชป.และ สส. เข้าร่วมรัฐบาลในยุค นาย เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
จนได้รับการแต่งตั้งเป็น รมต.ว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ปชป.ดำรงตำแหน่ง รมต.ช๋วยว่าการกระทรวง สาธารณสุขจนรัฐบาลมาสะดุดขาตัวเองภายใน 1 ปี ด้วยศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่และพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี (แต่ สส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชป.มาอยู่ตรงข้ามเป็นฝ่ายค้าน) จนมาถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
ทาง พรรค ปชป.ยังยึดมั่นร่วมรัฐบาลและได้เพิ่ม รมต.ช่วยสาธารสุข ขึ้นมาอีกตำแหน่งหนึ่ง คือ นายชัยชนะ เดชเดโช
จนรัฐบาลแพ้ภัยตัวเอง ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินให้พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ( ด้วยคลิปเสียง อากับหลาน) จนมีการสลับขั้ว นาย อนุทิน ชาญวีรกุล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 พรรค ปชป.ยังเข้าร่วมรัฐบาลนายอนุทิน 4 คน จน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกจากหัวหน้าพรรค ปชป. วันที่ 13 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. ผศ. ดร.เจนจิรา รัตนเพียร รักษาการโฆษกพรรค ปชป.นายเมฆิน เอี่ยมสะอาด และนาย ธนิตพล ไชยนันทน์
ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ที่ทำการพรรค ประชาธิปัตย์ และชี้แจงของการลาออกจากหัวหน้าพรรค ปชป.ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน และยึดมั่นกับกฎระเบียบของพรรค ปชป.เพื่อเร่งประชุมใหญ่ภายใน 60 วัน เลือกหัวหน้าพรรค ปชป. และกลยุทธ์เตรียมความพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้าต่อไป……นสพ.ธุรกิจแพร่-ออนไลน์ พร้อมเกาะติด ติดตาม นำความเคลื่อนไหวพรรค ปชป.นำสู่ประชาชนทั่วประเทศที่ยังรักพรรค ประชาธิปัตย์.