จับไม้หวงห้ามที่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เวลา 1430 น.ชุดปฎิบัติการพิเศษร่วมบูรณาการ ประกอบด้วยฝ่ายปฎิบัติการพิเศษ ฉก.หม้อห้อม ( ร้อยบก.บร.) เจ้าหน้าที่ ตชด. ที่ 323 กก.ตชด.32 จ.พะเยา เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.5 ( ห้วยแก๊ต) เจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.จว.แพร่ สกัดการขนไม้หวงห้าม ณ บริเวณ บนถนนยันตรกิจโกศล หมายเลขที่ 101 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เขตติดต่อระหว่างจังหวัดแพร่- จังหวัดน่าน โดยสกัดให้รถกะบะยี่ห้อ ISUSU รุ่นดีแม็กซ์ ทะเบียน บพ.666 แพร่ ภายท้ายรถมีกระสอบและพลาสติดสีดำปกปิดไม้ที่อยู่ด้านล่างพบไม้หวงห้าม ชิงชัน จำนวน 3 แผ่นเหลี่ยม ปริมาตร 0.091ลบ.ม.และไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 9 แผ่นเหลี่ยม ปริมาตร 0.284 ลบ.ม.จึงทำการจับกุม ทราบชื่อ นายภาคภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่



จากการสอบถามนายภาคภูมิ ให้การว่าได้ซื้อไม้ดังกล่าวมากชาวบ้านใน อ.ภูเพียง จ.น่าน นายภาคภูมิ ยังให้การต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า ตนเองได้ซื้อไม้เพื่อที่จะนำไปผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ พร้อมกันนี้ยังให้การว่าตนเองยังได้ซื้อไม้ไว้ที่บ้านอีกเพื่อที่นำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เจ้าหน้าที่ฯจึงนำตัว นายภคภูมิ ยังบ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 7 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ไปพบไม้หวงห้ามกองอยู่ใต้ถุนบันไดขึ้นบ้านอีกจำนวนหนึ่ง


จึงทำการยึดไม้ทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไผ่โทน จว.แพร่ เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหา มีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีข้อถามนายภาคภูมิ ว่าทำไมต้องไปเอยถึงไม้ที่อยู่ที่บ้านของตัวเอง หรือเพื่อหวังในความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ซื้อไม้มาขาย แต่ซื้อไม้มาเพื่อทำเฟอร์นิเจอร์ เป็นการเข้าใจผิดของนายภาคภูมิ คิดเสียเองว่าจะไม่ถูกจับคดีไม้ดังกล่าว น่าสงสารหรือน่าเห็นใจ ถือว่าเป็นคดีที่แปลก เอาตัวเองวิ่งไปหาคดีไม้ให้เพิ่มจำนวนไม้มากขึ้นไปอีกโดยคาดการไม่ถึงเป็นบทเรียนให้กับนายภาคภูมิ….


โฆษณา
