
วันที่ 2 ธันวาคม 2567 จากการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบาย โครงการมหาดไทยสีขาว สร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด( Safe Zone No Drugs) ตามมาตรการการป้องกันยาเสพติดของข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างและบุคลากรของหน่วยงานภาครัฐ ในระดับอำเภอ ทุกอำเภอทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯปฎิบัติการป้องกันและการปราบปรามยาเสพติดอำเภอ ในวันและเวลา 09.30 น. ณ หอประชุมอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ โดยการนำของ นายนคร สายยืด นายอำเภอสูงเม่น ประธานเปิดโครงการฯ อำเภอสูงเม่น มี 12 ตำบล 110 หมู่บ้าน ในวันและเวลาดังกล่าว ได้จัดการประชุมประจำเดือนฝ่ายปกครองอำเภอสูงเม่น การประชุมครั้งนี้ได้สุ่มตรวจปัสสาวะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) จำนวน 2 ตำบล ประกอบด้วย ต.เวียงทอง ต.บ้านปง

ผลการตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายของกลุ่มสุ่มตรวจทุกราย มีข้อสงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่สุ่มตรวจทั้ง 12 ตำบล 110 หมู่บ้าน หรือ 2 ตำบลเป็นกลุ่มเสี่ยง การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด เมื่อรัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ นั้นเท่ากับว่าทุกกรมภายใต้กระทรวงมหาดไทย จะต้องบูรณาการร่วมกัน โดยเฉพาะ สำนักตำรวจแห่งชาติ จะต้องเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามและป้องกันยาเสพติด ทุกวันนี้มีข่าวทุกพื้นที่ทั่วไทยกับการแพร่ระบาดยาเสพติด มีข้อคิดให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะต้องมีมาตรการที่เข้ม คือ ให้นโยบายให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอ นายอำเภอสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใต้บังคับบัญชา

คาดโทษของการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จะต้องเป็นสีขาว ถ้าพื้นที่ไหนยังมีการแพร่ระบาดยาเสพติดและมีผู้ก่อเหตุจากยาเสพติดจะต้องลงโทษตามขั้นตอน ในส่วนตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องสั่งการลงมาตามขั้นตอนระดับภาค ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ คาดโทษทุกพื้นที่พบพื้นไหนมีการแพร่ระบาดยาเสพติดทุกประเภท จะดำเนินคาดโทษตามหนักเบาของการแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ รัฐบาลสั่งการแบบนี้ได้ปัญหายาเสพติดที่ระบาดและทะลักเข้าในราชอาณาจักรไทย ลดลงแน่นอนหรือรัฐบาลจะต้องเข้มงวดเรื่องการแพร่ระบาดยาเสพติดทุกมิติอยู่ที่ รัฐบาลจะกล้าสั่งการหรือไม่ ?


