วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 จากการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ทุกจังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ บางจังหวัดก็มีการเลือกตั้ง นายก อบจ.ไปก่อนที่จะหมดวาระ จะด้วยเพราะเหตุและผลอะไรอยู่ที่แผนของนายก อบจ.แต่ละจังหวัดที่มีอำนาจในการเป็นนายก อบจ. ถึงการลาออกด้วยปัจจัยอะไรยังเป็นข้อสงสัยจากสื่อและประชาชน ว่าทำไมลาออกก่อนหมดวาระการเลือกตั้งแต่ละครั้งจะต้องเสียงบประมาณไปเท่าไหร่ งบประมาณที่หมดไปก็คือภาษีของประชาชน ทำไมไม่อยู่จนครบวาระ (ยกเว้นเสียชีวิตหรือป่วยหนักไม่สามารถที่จะปฎิบัติหน้าที่ได้ นั้นสุดปัญญา) แต่ลาออกกลับมารับสมัครเลือกตั้งใหม่ เสมือนการใช้งบประมาณซ้ำซ้อนกับการเลือกตั้ง ฝาย กกต.จะต้องคิดและพิจารณาในเรื่องดังกล่าวตามที่สื่อและประชาชนสงสัยหรือ การลาออกก่อนครบวาระจะได้เปรียบคู่แข่ง น่าคิด น่าสงสัย


เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 การเลือกตั้ง นายก อบจ.และ ส.อบจ.ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ในจังหวัดแพร่ นายก อบจ.แพร่ เบอร์ 2 นายอนุวัธ วงศ์วรรณ ยังรักษาตำแหน่งด้วยคะแนนสียง 124,750 คะแนน ส่วน นายประสงค์ ชุ่มเชย ได้ 74,934 คะแนน ถือว่าไม่ห่างกันกับคะแนนเสียงที่ประชาชน จังหวัดแพร่ มอบให้ ส่วน ส.อบจ.แพร่ ในเขตเมืองแพร่ เขต 1 นายพีรศักดิ์ บุญนิธิพันธุ์ ( สจ.ตี๋น้อย) คนในพื้นที่ยังรักและศรัทธา เขต 2 นายณัฐชนนท์ พรรัตนอนันท์ ( ช่างติ๋ว) สจ.หน้าใหม่ เดินสู่การเมืองระดับท้องถิ่นในนาม ส.อบจ.แพร่ ด้วยความมุ่งมั่นและนำประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องน้ำมาช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะจังหวัดแพร่ ยังขาดแคลนน้ำ อุปโภค-บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ในนามอิสระ เขต 3 นางมยุรี ยาวิชัย ยังรักษาตำแหน่งไว้ได้ เขต 4 นายยุทธพันธุ์ บันลือ ยังรักษาพื้นที่ไว้ในนามอิสระ เขต 5 นายผิน สิงห์เทพ ยังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ในนามอินสระเขต 6 นายปัญจพัฒน์ สิริกรวัฒนกุล ยังรั้งตำแหน่งไว้ได้ อ.หนองม่วงไข่ นางธนินจิตรา ศุภศิริ ยังเกาะตำแหน่งเหนียวแน่น อ.สอง เขต1 นายสนิท เวียงนาค ยังเกาะพื้นที่ไว้อยู่ เขต2 น.ส.อาทิตยา อินนะไชย ยังรั้งตำแหน่งอยู่ต่อสีเสื้อพรรคบ้านใหญ่ เขต 3 นายอรรถพล คำมีสว่าง ยังนั่งแป้นเหมือนเดิม อ.ร้องกวาง เขต 1 นางณัฐนันท์ อิ่นศิริ ยังขันน๊อตแน่น เขต 2 นายธีรยุทธ เอกจิตร์ ยังแน่นอยู่เพราะมีโลโก้พรรคเพื่อไทยหนุนอยู่ เขต 3 นายโชคชัย ศิริวรรณ ไร้คู่แข่งแต่แข่งกับตัวเองผ่าน อ.สูงเม่น เขต 1 นายวสุ แสงสุพรรณ สจ.หน้าใหม่เพราะเป็นทายาทของ รองนายก อบจ. เขต 2 นายปิยวัฒน์ พูนสวัสดิ์ สจ.หน้าใหม่ใจถึงประกอบกับมีแม่ยกช่วยอีกแรง ล้มแชมป์ เก่าเป็น สจ.มาหลายสมัยลงในนามอิสระ เขต 3 นางสุขาวดี วังคำ เป็น สจ.อีกสมัย ยังรักษาตำแหน่งไว้ได้เพราะมีสามีอยู่เบื้องหลัง เขต 4 นางพรรณกลม เวชกุล สจ.หน้าใหม่สามารถล้มแชมป์เก่าได้เพราะในเขตตัวเองมีประชากรมากกว่าหลังสลับเขตการเลือกตั้ง อ.ลอง เขต 1 นายแสงสว่าง เสือขำ ลงในนามพรรคการเมืองใหญ่ประกอบเป็นดินแดนคนบ้านใหญ๋ เขต 2 นายบุญโชติ ยานสกุล ยังอยู่ในตำแหน่งเพราะสีเสื้อการันตี เขต 3 นายคมกริช อินดี สจ.หน้าใหม่แต่ลงพื้นที่จนชาวบ้านเทคะแนนให้ อ.เด่นชัย เขต 1 นายอนันต์ กาศสมบูรณ์ ยังอยู่เพราะสีเสื้อรับรอง เขต 2 นายวังสาคร หมั่นขีด ยังอยู่ในตำแหน่งบวกกับสีเสื้อเป็นโลโก้ บ้านใหญ่ อ.วังชิ้น เขต 1 นางกุลชา บัญสว่าง เพราะมีบ้านใหญ่นั่งข้างๆ เขต 2 นายปฎิพล จอมดวง ยังรั้งตำแหน่งไว้ได้ประกอบกับใส่สีเสื้อบ้านใหญ่เข้าไปลอยลำตามคาดหมาย ว่าที่ นายก อบจ.และ ส.อบจ.แพร่ ทั้ง 24 เขตการเลือกตั้งจังหวัดแพร่ ทุกท่านแข่งขันการหาเสียงตามแต่ว่า ใครมีพละกำลังของกระสุนและกระแส จึงบ่งบอกถึงได้ซึ้งคะแนนเสียง จังหวัดแพร่ มีพรรคการเมืองอยู่ 3 พรรคการเมืองระดับประเทศ เช่น พรรค ประชาธิปัตย์ พรรค เพื่อไทย และพรรคร่วมไทยสร้างชาติ ที่มีอยู่ในจังหวัดแพร่ การเลือกตั้งระดับประเทศในปี 2570 ( ถ้ารัฐบาลไม่ไปสะดุดขาตัวเองล้มเสียก่อน)จังหวัดแพร่ ก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าจับตามองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป