วันที่ 1 มีนาคม 2568 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมชั้นที่ 3 สำนักงานแขวงทางหลวงแพร่ ต.ทุ่งกวาว อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นายกฤติเดช ศรียงศ์ ผอ.แขวงทางหลวงแพร่ ได้ทำหนังสือเรียนเชิญ ฝ่ายปกครองและบริหาร ในพื้นที่ ต. ทุ่งกวาว ต.ทุ่งโฮ้ง มีฝ่ายปกครอง ต.ทุ่งกวาว กำนันเวทย์ นามจะโปะ กำนัน ต.ทุ่งกวาว ฝ่ายปกครอง ต.ทุ่งโฮ้ง และบริหารเทศบาล ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ เพื่อชี้แจงถึงโครงการ งานไฟฟ้าแสงสว่างและงานสัญญาณไฟจารจร ทางหลวง หมายเลข 101 ตอนแยกนาแหลม-หนองห้า ระว่าง กม.251+107 กม.253-882 ( เป็นช่วงๆ) พื้นที่ ต.ทุงโฮ้ง ต.ทุ่งกวาว เพื่อความปลอดภัยในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากที่มีชาวบ้านในย่านชุมชนที่มีหน้าร้านจำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะเป็นแหล่งจำหน่ายเสื้อหม้อฮ่อม ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาว ต.ทุ่งโฮ้ง และที่สำคัญในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีนักท่องเที่ยวและผู้คนในพื้นที่มาหาซื้อเสื้อผ้าหม้อฮ่อมและสินค้าอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของผ้าหม้อฮ่อม
ปัญหาที่เกิดความไม่เห็นด้วยกับชาวบ้านในย่านดังกล่าว ที่เกี่ยวกับการตั้งเสาไฟฟ้า ความสูง 9 เมตร 2 ฝั่งถนน จำนวน 60 ต้น จากงบประมาณ 4,968,610.90 บาท เริ่มสัญญาเมื่อ 30 มกราคม 2568 สิ้นสุดสัญญา 29 เมษายน 2568 ระยะเวลาการดำเนินการ 90 วัน จากกรณีดังกล่าว ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรม จ.แพร่ และ บก.นสพ.ธุรกิจแพร่-ออนไลน์ ได้ยื่นหนังสือถึง นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รอง ผวจ.แพร่ จนนำสู่การเข้ากระบวนการฟังความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อ วันที่ 18 ก.พ.68 ณ ห้องประชุม เทศบาล ต.ทุ่งโฮ้ง แต่ยังไม่ได้รับความชัดเจนในกระบวนการของดำเนินงานก่อสร้างฯ และความไม่เข้าใจของประชาชน ในพื้นที่ จากการสอบถาม ผอ.แขวงทางหลวงแพร่ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงความสูงของเสาไฟฟ้าจาก 9 เมตร มาเป็น 12 เมตร ลดจำนวนจาก 60 ต้น เหลือ 30 ต้น และการติดตั้งติดด้านเดียวฝั่งขวาจากจุดเริ่มต้น ตามมาตรฐานของการให้แสงสว่าง ของถนนสายดังกล่าว
จากที่ชาวบ้านมีข้อสงสัยของการดำเนินการว่าทำไมไม่ทำประชาคมให้ชาวบ้านได้รับทราบก่อน มีการชี้แจงจาก ผอ.แขวงทางหลวงแพร่ ว่า ตามกฎมายและระเบียบว่าด้วยการเพิ่มเติมหรือการกระทำใดๆที่ไม่ใช่การรื้อ ถอน การขยายพื้นที่หรือการก่อสร้าง สามารถที่จะกระทำได้โดยไม่ต้องทำประชาคมในพื้นที่ จึงทำให้ชาวบ้านเข้าใจในกระบวนการดังกล่าว การเปิดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายปกครอง และฝ่ายบริหาร ในวันและเวลาดังกล่าว นายกเทศบาล ต.ทุ่งโฮ้ง ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ส่งรองนายก เทศบาล ต,ทุ่งโฮ้ง มาแทนแต่ให้ความคิดเห็นไม่ได้ต้องไปปรึกษานายก เทศบาล ต.ทุ่งโฮ้ง ก่อน ผอ.แขวงทางหลวงแพร่ ถามถึง กองช่างเทศบาล ต.ทุ่งโฮ้ง ก็ไม่เข้าร่วมประชุม จากการรับฟังในที่ประชุมมีอยู่ 4 ประเด็นหลัก คือ 1 ให้โครงการเดินต่อแต่ต้องไปพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่มีปัญหาให้มีส่วนร่วม 2 ถ้าโครงการนี้ตกไป ทางเทศบาล ต.ทุ่งโฮ้ง จะรับปากกับชาวบ้านว่าจะเพิ่มแสงสว่างของการติดตั้งกับเสาไฟฟ้าของเดิมได้หรือไม่ และทำไมด้านหนึ่งมีหลอดไฟสีขาว อีกด้านมีหลอดไฟสีเหลืองเป็นเพราะอะไร จึงไม่ได้คำตอบจากฝ่ายบริหาร เทศบาล ต.ทุ่งโฮ้ง 3 ถ้าจะทำการติดตั้งเสาไฟฟ้าการขยายเขต จะต้องใช้งบประมาณมากและพื้นที่จำกัด 4 ถ้าทำประชาคมตอนนี้ จะต้องนำเข้าแผนในปีถัดไป ประเด็นที่ทางแขวงทางหลวงแพร่ ได้ชี้แนะว่าให้ผู้นำหรือฝ่ายบริหารไปพูด-คุยกับพื้นที่ที่มีปัญหา 3 จุด ทาง ผอ.แขวงทางหลวงแพร่ พร้อมที่จะขยับหรือแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านอยู่แล้ว ชาวบ้านต้องมีส่วนร่วมจะได้สบายใจทั้ง 2 ฝ่าย จึงมีมติภายในสัปดาห์หน้า จะได้หาข้อยุติเพื่อให้โครงการเดินต่อไปได้ ถ้าการเจรจาหรือไม่สำเร็จผลของโครงการฯลงพื้นที่ได้ประเมินผล ทางแขวงทางหลวงแพร่ จำเป็นจะต้องโยกย้ายโครงการเลื่อนขึ้นไปอีกช่วงหนึ่ง ที่ทาง บก.นสพ.ธุรกิจแพร่-ออนไลน์ ได้ปรึกษากับ นายกฤติเดช ศรียงศ์ ผอ.แขวงทางหลวงแพร่ เพื่อหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้จุดดังกล่าวมีแสงสว่างเพียงพอในยามค่ำคืน และจะเป็นจุดเดินบนถนนที่ปลอดภัย มีแสงสว่างเพียงพอในการหาซื้อสินค้าผ้าหม้อฮ่อม ยามค่ำคืนของพี่น้องชาว ต.ทุ่งโฮ้ง ต่อไป ทางด้าน นายกฤติเดช ศรียงศ์ ผอ.แขวงทางหลวงแพร่ ยังมีโครงการอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาจุดแลนด์มาร์ค แหล่งท่องเที่ยว เดินชิมเลือกซื้อสินค้าผ้าหม้อฮ่อมที่เป็นเอกลักษณ์ของ ชาว ต.ทุ่งโฮ้ง โครงการดังกล่าวจะเป็นรูปธรรมไม่เกิน ปี 2570 ถนนสายย่านเศรษฐกิจ ย่านชุมชน ของพี่น้องชาว ต.ทุ่งโฮ้ง จะเป็นแลนมาร์ค แหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนจะต้องมาเดิน มาชม สักครั้งหนึ่ง ในชีวิตที่ได้มาเยือนเอกลักษณ์ในคำขวัญของ จังหวัดแพร่ จุดประกายแห่งใหม่ในอนาคตของ พี่น้องชาว ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่แน่นอน
